กฎวิธีในการเล่นการพนันกีฬา
การพนันกีฬาเป็นหนึ่งในกิจกรรมการพนันที่นิยมมากในหมู่แฟนกีฬาและผู้ที่ชื่นชอบการพนันกีฬาเป็นสิ่งที่นิยมกันอย่างกว้างขวาง โดยมีหลากหลายชื่อเรียก เช่น "Vigorish" หรือ "Juice" นอกจากนี้ยังมีคำที่เกี่ยวข้องกับการพนันกีฬาอีกมากมาย ที่อาจจะก่อให้เกิดความสับสนให้กับผู้ที่สนใจเล่นกีฬา
ในบทความนี้ เราจะมาศึกษาเกี่ยวกับกฎเกณฑ์และคำที่ใช้ในกีฬา เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจและสามารถเล่นการพนันกีฬาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หนึ่งในคำที่ใช้ในกีฬาคือ "Vigorish" หรือ "Juice" ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกส่วนต่างระหว่างอัตราเปิดและผลกำไรที่โบนัสได้รับ ค่าส่วนต่างนี้ถือเป็นการดูดซึมรายได้จากการกีฬาของผู้เล่น และเป็นส่วนที่จะเห็นได้ในแต่ละครั้งที่เล่นการพนันกีฬา
เรามามาดูตัวอย่างการคำนวณ "Vigorish" และ "Juice" กัน
ตัวอย่าง:
1. ถ้าอัตราเปิดเป็น 2.10 ค่าทิ้งสำหรับทีมที่ชนะคือ 2.10 และหากเราพนัน 100 บาท จะได้กำไร 100 x 2.10 = 210 บาท
2. ถ้าอัตราเปิดเป็น 2.10 ค่าทิ้งสำหรับทีมที่แพ้คือ 1.90 แล้วหากเราพนัน 100 บาท เราจะได้กำไร 100 x 1.90 = 190 บาท
3. ค่าที่ทิ้งสำหรับการพนันจะอยู่ที่ 100 บาท - 20 บาท (Vigorish) = 80 บาท
จากตัวอย่างนี้ เราสามารถเห็นได้ว่า "Vigorish" หรือ "Juice" คือค่าที่ดูดซึมโดยโบนัสเมื่อผู้เล่นพนันกับกีฬา
นอกจากนี้ยังมีคำที่ใช้ในการพนันกีฬาอีกมากมาย เช่น:
1. "In-play Wagering" - คำนี้หมายถึงการพนันในกีฬาที่กำลังเล่นอยู่
2. "Betting Odds" - คำนี้หมายถึงอัตราต่อรองที่ทำการพนัน
3. "Bet" - คำนี้หมายถึงการพนันใด ๆ
การพนันกีฬามีทั้งความสนุกและได้ผลตอบแทนมากมาย แต่เราต้องเรียนรู้กฎเกณฑ์และคำศัพท์เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและไม่ตกเป็นเหยื่อของโบนัส
อย่างไรก็ตาม การพนันกีฬาถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่อนุญาตในประเทศไทย ดังนั้นบทความนี้ให้ความรู้เป็นเพียงการใช้ประโยชน์จากเนื้อหาและไม่ได้ส่งเสริมให้ผู้อ่านเล่นการพนันกีฬา หากมีความรู้และเข้าใจในการพนันกีฬา จะทำให้เราสามารถป้องกันตัวเองจากการตกเป็นเหยื่อของโบนัสและอาจกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเล่นการพนันกีฬา ดังนั้น หากเราเข้าใจในการพนันกีฬา เราสามารถเพลิดเพลินกับมันได้อย่างมีสติและไม่ตกเป็นเหยื่อของโบนัสได้